สำหรับเจ้าของเว็บไซต์ หรือนักธุรกิจที่ทำธุรกิจบนออนไลน์ต่างก็ต้องมีกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตและสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น และการวางกลยุทธ์การตลาดทางออนไลน์นั้น สิ่งที่สำคัญเลยคือ การรู้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค เช่น คนที่เข้ามาใช้งานหรือเข้ามาชมเว็บไซต์ของคุณนั้นคือใคร เพศ อายุ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้เข้าเว็บไซต์เป็นโทรศัพท์ Tablet หรือ PC อีกทั้งช่องทางที่เข้ามาชม เช่น Google หรือ Facebook
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และวางแผนในการทำการตลาดได้อย่างตรงความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือมีผู้คนเข้ามาซื้อหรือใช้บริการสินค้าของคุณมากขึ้น สำหรับนักธุรกิจที่ทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ต่างก็เลือกใช้ Google analytics เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ โดยข้อมูลเหล่านี้ก็จะถูกนำไปปรับปรุงในส่วนงานต่าง ๆ เช่น การปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ การหาสิ่งที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น เป็นต้น
Google analytics คือเครื่องมือที่สำคัญในการช่วยเหลือการทำการตลาดออนไลน์ หรือกิจกรรมทางดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง Digital marketing ซึ่งจะใช้ในการติดตามการเยี่ยมชมเว็บไซต์ การแสดงโฆษณา การค้นหาต่าง ๆ แต่หลายคนนั้นอาจจะคิดว่า Google analytics ต้องเป็นเครื่องมือที่ใช้ยากและซับซ้อน สำหรับวันนี้เราจะมาอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับ Google analytics คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้างกับการทำการตลาดออนไลน์ รวมไปถึงวิธีการใช้งานต่าง ๆ
สารบัญบทความ
Google analytics คืออะไร
Google analytics คืออะไร ทำไมถึงสามารถช่วยธุรกิจออนไลน์ของคุณได้ ?
Google analytics คือ เครื่องมือที่วิเคราะห์ข้อมูลในเชิงสถิติ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สร้างเว็บไซต์ต่าง ๆ และมี User เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่ง Google analytics จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ User เช่น User ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณนั้นเป็นเพศอะไร อายุเท่าไหร่ ใช้ช่องทางไหนในการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และ User เหล่านั้นค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการอะไรบ้าง
เมื่อเราทราบจุดประสงค์หรือพฤติกรรมการซื้อของ User แล้ว เราสามารถที่จะลงทุนการโฆษณากับสินค้าที่ตรงตามความต้องการของ User ได้หรือทำการปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดให้ดีขึ้น อีกทั้ง Google analytics เป็นเครื่องมือที่คุณสามารถใช้งานได้ฟรี
Google analytics มีประโยชน์อย่างไร
Google analytics คือ เครื่องมือที่เรียกได้ว่าเก็บข้อมูลของ User ที่จำเป็นต่อการพัฒนาเว็บไซต์และเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์ของคุณให้ดีมากยิ่งขึ้น นับว่าการใช้ Google analytics เป็นเครื่องมือที่ช่วยเรื่องการตลาดออนไลน์ให้กับเจ้าของเว็บไซต์เป็นอย่างมาก ที่สำคัญข้อมูลที่ได้มานั้นยังได้มาฟรีอีกด้วย โดยประโยชน์ของ Google analytics มีดังนี้
ได้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้เข้าใช้งาน
คุณสามารถใช้ข้อมูลที่ได้จาก Google analytics ในการติดตามดูพฤติกรรมของ User ได้ในการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ ได้แก่ จำนวนผู้เข้าชม เวลาที่เข้าชม คำค้นหาที่ User ค้นหา การโฆษณา รวมไปถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับ User เช่น อายุ เพศ และพฤติกรรมต่าง ๆ ในการเรียกดูเว็บไซต์ เพื่อที่คุณจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการลงโฆษณาที่เป็นที่ต้องการของ User
สามารถวัดผลได้แบบ Real time
Google analytics คือ เครื่องมือที่สามารถช่วยให้คุณได้ข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาของ User ได้แบบเรียลไทม์ โดยที่คุณไม่ต้องรอ อีกทั้งข้อมูลที่ได้มานั้นยังครบถ้วนอีกด้วย ซึ่งเครื่องมือตัวเก่า ๆ จะต้องใช้เวลาในการรอข้อมูลหรือต้องจัดระเบียบข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ machine learning สามารถอ่านข้อมูลได้ อีกทั้งยังทำให้ข้อมูลที่ได้มานั้นไม่ครบถ้วน หรือบางส่วนหายไปอีกด้วย ซึ่งจะทำให้เจ้าของเว็บไซต์นั้นไม่สามารถเข้าใจพฤติกรรมของ User ได้ทั้งหมด
ซึ่งปัจจุบัน Google analytics ก็ได้มีการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ ๆ ออกมาจนมาถึง Google Analytics 4 ซึ่งได้มีการเปลี่ยนรูปแบบการเก็บข้อมูลจากเว็บ และแอปพลิเคชันเป็นรูปแบบ event model ซึ่งทำให้คุณสามารถดึงข้อมูลมาใช้ได้ทันที หรือเรียกได้ว่าเป็นแบบเรียลไทม์ และสามารถนำข้อมูลนั้นไปปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างทันท่วงที
สามารถนำข้อมูล Customer Journey ไปวิเคราะห์
Google analytics คือ การรับรู้ได้ถึง insight ของ customer journey โดยเฉพาะ Google Analytics 4 สามารถที่จะเก็บข้อมูลจากเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน เนื่องจากแต่ก่อนนั้นระบบจะทำการเก็บข้อมูลแยกกันจากเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน จึงทำให้ต้องอ่านข้อมูลแยกกัน และcustomer journey ที่ได้นั้นไม่ต่อเนื่อง อีกทั้ง Google Analytics 4 ยังสามารถ Optmize ข้อมูลได้แบบ personalize อีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถเจาะลึกรายละเอียดของ Customer Journey ได้ทั้งหมดเลยทีเดียว
สามารถวิเคราะห์ผลได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
สำหรับ Google Analytics มีโหมดที่ชื่อว่า Consent Mode ซึ่งเป็นโหมดที่จะช่วยให้สามารถวัดผลแบบภาพรวมได้แม้ User จะไม่กดให้ความยินยอมให้เก็บข้อมูลก็ตาม แต่ทั้งนี้ก็จะไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของ User ออกมา เพียงแต่จะเก็บข้อมูลออกมาในรูปแบบ Aggregate level โดยไม่ระบุตัวตนของ User
แต่ถึงแม้ว่า User จะไม่กดยินยอมในการเผยข้อมูลส่วนตัวนั้น Consent Mode ก็ยังสามารถแสดงผลแบบภาพรวมออกมาให้ได้ ซึ่งคุณสามารถนำมาปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพขึ้นได้
สามารถนำไปข้อมูลไปปรับปรุงพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีกว่าเดิม
Google Analytics จะช่วยเก็บข้อมูลที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของ User ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นคุณสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจและความต้องการของ User ได้ อีกทั้งการเลือกชมหรือคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ต่าง ๆ ของ User หรือแม้แต่แนวโน้มที่ User นั้นจะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่น คุณก็สามารถเก็บข้อมูลเหล่านี้ได้จาก Google Analytics ดังนั้นหากคุณต้องการปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้นหรือตรงความต้องการของ User มากขึ้น Google Analytics คือเครื่องมือที่คุณจำเป็นต้องเลือกใช้
Google analytics 4 ดีกว่า Universal analytics อย่างไร
สำหรับ Google Analytics 4 เป็นเวอร์ชันล่าสุดสำหรับ Google Analytics ที่มีการปรับปรุงการใช้งานต่าง ๆ มาแล้วซึ่งก็จะมีข้อดีที่เหนือกว่า Universal analytic ซึ่งวันนี้เราจะบอกถึงความแตกต่างของ Google Analytics 4 และ Universal analytics ว่าแต่ละตัวนั้นมีข้อดีอย่างไร และมีเครื่องมือการใช้งานอะไรที่เหนือกว่า
Google analytics 4
สำหรับ Google Analytics 4 เป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Google Analytics ที่ทำการปรับปรุงเครื่องมือต่าง ๆ มาแล้ว โดย Google Analytics 4 สามารถเก็บข้อมูลทั้งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันให้เป็นข้อมูลชุดเดียวกันได้ และสามารถวิเคราะห์ได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้ง Google Analytics 4 มีการเก็บข้อมูลแบบ event based model ที่สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ได้ทันทีและสามารถที่จะ Take next best action ได้ นับว่า Google Analytics 4 มีความสามารถในการวิเคราะห์และเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Universal analytics
สำหรับ Google Analytics ในเวอร์ชันเก่ามีชื่อว่า Universal analytics จะเป็นการเก็บข้อมูลแบบไม่เรียลไทม์ อีกทั้งข้อมูลที่เก็บมาจากเว็บและแอปพลิเคชันนั้น จะเก็บแยกกันทำให้การอ่านข้อมูลนั้นต้องอ่านแยกกัน ภาพรวม Customer Journey จะไม่ต่อเนื่องกัน และ Universal analytics นั้นมีการใช้งานที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งทำให้ผู้ใช้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญนั้นอาจจะใช้เครื่องมือได้อย่างยากลำบาก
ซึ่งการเลือกใช้ Universal analytics คุณควรพิจารณาความต้องการใช้งานของคุณรวมไปถึงฟีเจอร์บางอย่างที่ยังเป็นข้อจำกัดอยู่ แต่หากคุณต้องการประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลหรือการนำเสนอข้อมูลแบบเรียลไทม์นั้น คุณควรเลือกใช้ Google Analytics 4 เพื่อได้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนอีกด้วย
แพ็กเกจของ Google analytics แตกต่างกันอย่างไร
สำหรับแพ็กเกจของ Google Analyticsคือ แบบใช้งานฟรี และแบบเสียเงิน ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ Google Analytics Version free และ Version 360 ซึ่งมีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้
Version free
Google Analytics Version free จะเป็นเวอร์ชันที่ไม่เสียเงินในการใช้งาน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างเช่น เป็นเวอร์ชันที่เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขององค์กรขนาดเล็กและกลาง เนื่องจากยังจำกัดการสร้างอยู่ที่ 200 Views ต่อ Property เท่านั้น แต่ Google Analytics Version free นี้ก็สามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไวต์หรือแอปพลิเคชันของคุณได้
Version 360
สำหรับ Google Analytics Version 360 เป็นเวอร์ชันที่ต้องเสียเงินเหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ หรือองค์กรที่มีการเก็บข้อมูลที่จำนวนเยอะ ซึ่ง Version 360 นั้นก็จะมีฟีเจอร์ล้ำ ๆ ที่เพิ่มเติมมา เช่น การทำงานร่วมกับ Google BigQuery เพื่อค้นหาและดึงข้อมูลของบริษัท, Salesforce เพื่อจัดการกับลูกค้าสัมพันธ์ (CRM), เก็บข้อมูลที่มีการอัปเดตไม่เกิน 4 ชั่วโมง ซึ่งคุณจะได้รับข้อมูลที่มีความสดใหม่
คุณสามารถที่จะเลือกใช้งาน Google Analytics Version free หรือ 360 ได้ตามความต้องการของคุณหรือความเหมาะสมต่อองค์กรของคุณได้
Report ใน Google analytics แต่ละประเภท มีความน่าสนใจอย่างไร
สำหรับ Google Analytics จะมี Report ทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่ Acquisition, Engagement, Monetization และ Retention ซึ่งเป็น report ที่ปรากฏอยู่บน Google Analytics 4 จะทำให้เห็นข้อมูล Customer Journey เป็น Funnel มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยแสดงข้อมูลที่เกี่ยวกับช่องทางที่ User เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ
Acquisition
Acquisition เป็น report ส่วนหนึ่งของ Google Analytics คือ สามารถรายงานเกี่ยวกับแหล่งที่มาของการเข้าชมเว็บไซต์ของ User ได้ เช่น User นั้นมีการค้นหาเว็บไซต์ของคุณมาจากทางไหน ใช้เวลากับการใช้งานเว็บไซต์เท่าไหร่ มาจากแคมเปญอะไร และ content แต่ละหน้าของเว็บไซต์คุณนั้นมีความน่าสนใจหรือดึงดูด User ได้หรือไม่
Engagement
Engagement เป็น report ส่วนหนึ่งของ Google Analytics คือ report ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจของ User กับ content ต่าง ๆ เช่น การเข้าชม content มีเนื้อหาแบบไหนบ้างที่ User ชอบเลื่อน (Scroll) ไปดู เวลาที่ User ใช้ในการเข้าชม content หรือเว็บไซต์ของคุณ
ซึ่งการสร้าง content ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายแบบมาก โดย Content ที่จะกระตุ้นทำให้เกิดความสนใจจาก User นั้นเรียกว่าการทำ CTA หรือ Call to Action เป็น content ที่ยื่นข้อเสนอบางอย่างในการดึงดูด User ให้มาซื้อสินค้าของคุณหรือซื้อสินค้าของคุณเพิ่ม โดยจะใช้ร่วมกับการออกแบบที่ดึงดูด User เป็นตัวช่วยเสริม
Monetization
Monetization เป็น report ส่วนหนึ่งของ Google Analytics ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการขายของบนเว็บไซต์ โดยข้อมูลที่แสดงในส่วนนี้นั้น เช่น สินค้ายอดนิยมที่มียอดคลิกเยอะที่สุด หรือมี User กดสินค้านั้น ๆ ลงตะกร้าไว้ User ที่เข้ามาซื้อเป็นครั้งแรกกับเว็บไซต์ของคุณ อีกทั้งยังแสดงจำนวนเงินที่สร้างรายได้จากเว็บไซต์ของคุณ
Retention
Retention เป็น report ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อของ User เช่น ข้อมูลของ User ที่กลับมาซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ของคุณ หรือ User ที่มีการซื้อสินค้าของคุณบ่อย โดยคุณนั้นสามารถเสนอสิทธิพิเศษให้กับ User เหล่านี้ได้
อีกหนึ่งการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มการขายให้กับธุรกิจของคุณ คือ การทำ Lead โดยความหมายของ Lead นั้นก็คือ กลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจต่อสินค้าของคุณหรือเคยซื้อสินค้ากับเว็บไซต์ของคุณมาก่อนแล้ว ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าที่จะมีแนวโน้มในการซื้อสินค้าของคุณภายในอนาคตนั้น ก็เรียกได้ว่าเป็น Lead ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการมองหา Lead นั้นจะทำให้คุณไม่เสียเวลาไปกับการหาลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ตลอดเวลา นอกจากจะทำให้เสียเวลาแล้ว คุณยังต้องใช้งบประมาณไปกับการหากลุ่มลูกค้าใหม่อีกด้วย
ข้อสังเกตของ Google analytics 4 ที่ควรระวัง
สำหรับข้อสังเกตที่ควรระวังเป็นหลักของ Google analytics คือ การขออนุญาตจาก User เพื่อติดตั้ง Cookie โดย Cookie นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปรับปรุง User experience คือการที่ User เข้าไปใช้งานเว็บไซต์ที่มีการเก็บข้อมูลหรือการลงทะเบียน Log in ต่าง ๆ เมื่อ User ได้กลับไปเข้าใช้งานอีกครั้งมันจะจดจำข้อมูลของ User ได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมานั่งกรอกข้อมูลใหม่หลาย ๆ รอบ
แต่หาก User นั้นไม่ยินยอมในการติดตั้ง Cookie ก็จะทำให้ Google Analytics ไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ หรือไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นส่วนตัวของ User ได้ แต่ถ้าหาก User นั้นกดยินยอม Cookie Google analytics ก็จะสามารถแสดง Customer Journey ได้ ซึ่งการใช้งาน Google analytics 4 ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องระวังในการยินยอมการติดตั้งคุกกี้
วิธีการติดตั้ง Google analytics
Google Analytics คือเครื่องมือที่คุณสามารถใช้งานได้ฟรี แต่หากคุณต้องการที่จะใช้งาน Google Analytics คุณจำเป็นต้องทำการติดตั้งและสมัครตามขั้นตอนเสียก่อน โดยมีวิธีการติดตั้งนั้นมีดังต่อไปนี้
- สร้างบัญชีโดยไปที่เว็บไซต์ google.com/analytics เพื่อทำการลงทะเบียนด้วย Gmail หรือ Google Account แต่หากคุณมีบัญชีอยู่แล้ว คุณสามารถเลือก Sign in to Analytics ได้เลย แต่หากคุณไม่มีให้เลือกที่ Start for free เพื่อลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้
- จากนั้นคลิกที่ปุ่ม เริ่มวัด
- ใส่ชื่อบัญชี Google Analytics ของคุณ โดยอาจจะตั้งเป็นชื่อแบรนด์ เว็บไซต์หรือบริษัท แต่ไม่แนะนำให้ใส่เป็นชื่อคน จากนั้นคลิกปุ่มถัดไป
- เลือกแถบ เว็บไซต์ จากนั้นคลิกปุ่ม ถัดไป
- ใส่ชื่อเว็บไซต์ และ URL ของเว็บไซต์ เลือกหมวดหมู่อุตสาหกรรม เลือกประเทศ และ Time Zone ( ประเทศไทย GTM +7) จากนั้นคลิกที่ปุ่ม สร้าง
- กดยอมรับข้อกำหนดและนโยบายการใช้งาน จากนั้นให้กด ฉันยอมรับ
- เพียงเท่านี้คุณก็จะเข้าสู่หน้าหลักของ Google Analytics เรียบร้อยแล้ว
เครื่องมือที่ใช้ควบคู่กับ Google analytics เพื่อวิเคราะห์ผลได้ง่ายและแม่นยำ
มีเครื่องมือหลายชนิดที่สามารถใช้ควบคู่กับ Google Analytics เพื่อให้วิเคราะห์ผลได้ง่ายและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
Google tag manager
เครื่องมือที่สามารถใช้ร่วมกับ Google Analytics คือ Google tag manager เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณจัดการและติดตั้งรหัสในการติดตาม Tags ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย สะดวกและรวดเร็ว ซึ่ง Tags ที่ว่านั้นก็คือ Tracking Code ต่าง ๆ ที่แพลตฟอร์มทั้งหลายอยากให้ติดที่เว็บไซต์ของคุณนั่นเอง เช่น Google Analytics, Facebook Pixel, TikTok Pixel เป็นต้น
Looker
เครื่องมือที่สามารถใช้ร่วมกับ Google Analytics คือ Looker เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่จัดการ Data ให้ง่ายขึ้น โดยLooker นั้นจะแปลงข้อมูลให้เป็นรายงานที่อยู่ในรูปแบบที่ปรับแต่งได้ หรือรูปแบบ Data Visualization ทั้งรูปภาพ กราฟ แผนภูมิ ซึ่งจะง่ายต่อการอ่าน
Google optimize
เครื่องมือที่สามารถใช้ร่วมกับ Google Analytics คือ Google optimize เป็นเครื่องมือที่จะช่วยคุณปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ของคุณให้น่าดึงดูด User มากขึ้น เช่น การดีไซน์แบบไหน หรือข้อความแบบไหนที่สามารถดึงดูด User ได้มากกว่ากัน โดยคุณสามารถสร้างการทดสอบ A/B Testing ในหลาย ๆ รูปแบบเพื่อดูว่าอะไรที่ทำงานได้ดีที่สุด
สรุป
สำหรับเครื่องมือที่ใช้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดบนโลกออนไลน์นั้น ก็คงหนีไม่พ้นGoogle Analytics คือ เครื่องมือที่ช่วยรับรู้ถึงพฤติกรรมของ User ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้คุณสามารถนำมา พัฒนาเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่หากคุณต้องการจะสร้างรายได้ให้มากขึ้นจากการขายสินค้าบนออนไลน์ คุณจำเป็นที่ต้องมีหน้าเพจที่ดึงดูดผู้บริโภคได้ จากดีไซน์การออกแบบของเว็บไซต์หรือหน้าเพจของคุณ หากมีสิ่งที่น่าสนใจกระตุ้นผู้บริโภค เว็บไซต์ของคุณก็จะมีคนเข้ามาเยี่ยมชมเยอะ และทำให้รายได้ของคุณนั้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งการทำหน้าเพจให้ดึงดูดหรือการมีระบบหลังบ้านที่ดี คุณสามารถเลือกใช้บริการจาก Markety ได้
โดยบริษัท Markety นั้นจะให้บริการรับทำ Landing Page และ รับทำ Sale Page แบบมืออาชีพจากผู้ที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ รับรองได้ว่าเว็บไซต์ของคุณนั้นจะสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้เป็นจำนวนมาก หากคุณสนใจสามารถติดต่อ Markety ได้ที่ ที่ตั้ง: 573/104 รามคำแหง 39 แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310 ติดต่อสอบถาม 084-509-5545 061-924-7449 อีเมล [email protected]
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Google analytics
Session ใน Google analytics หมายถึงอะไร
Session ใน Google analyticsคือ ช่วงเวลาที่ User เข้ามาทำกิจกรรมต่าง ๆ บนเว็บไซต์ของคุณ หรือบนแอปพลิเคชัน เช่น การเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือการเข้ามาสร้าง event การเข้ามาซื้อสินค้าทำให้เกิด Transaction ผ่าน ecommerce เป็นต้น โดย Session จะเริ่มคำนวณจากการที่ User เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์และอยู่บนเว็บไซต์อย่างน้อย 30 นาที
ธุรกิจเหมาะที่จะใช้ Google analytics หรือไม่
แน่นอนว่าการใช้ Google analytics สามารถช่วยทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเติบโตต่อไปได้อย่างมาก เนื่องจากคุณสามารถได้รับรู้ข้อมูลที่เกี่ยวกับ User ที่เข้ามาเยี่ยมชมบนเว็บไซต์ของคุณ เช่น ช่องทางที่ User ใช้ในการเข้าเยี่ยมชม เวลาที่ User เข้าใช้งานเว็บไซต์ของคุณ และข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ จะทำให้คุณสามารถที่จะพัฒนาเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพขึ้นได้
ความแตกต่างระหว่าง Google analytics 4 กับ Universal analytics
สำหรับความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของUniversal analytics และ Google analytics 4 คือ GA4 จะเป็น Event Based Analytics ซึ่งจะแสดงข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับพฤติกรรมในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ แต่Universal Analytics นั้น จะเก็บข้อมูลเป็น Session Based Analytics โดยเก็บข้อมูลแบบ Pageview เป็นพื้นฐาน GA4 จะถูกปรับปรุงมาให้เก็บข้อมูล Customer journey และแสดงผลออกมาแบบเรียลไทม์
อ้างอิง
Wikipedia.(2023,July08).Google Analytics.
https://en.wikipedia.org/wiki/Google_Analytics
Sara Swaney.(2023,July08).Analytics Tools & Solutions for Your Business.
https://marketingplatform.google.com/about/analytics/
Wesley Chai.(2023,July08).Google Analytics. https://www.techtarget.com/searchbusinessanalytics/definition/Google-Analytics