เชื่อว่าใครหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Metaverse กันมาบ้างพอสมควร แต่ Web 3.0 คืออะไรและ Web 3.0 สำคัญแค่ไหนอาจจะยังมีใครหลายคนที่ยังไม่เข้าใจถึงที่มา ลองนึกถึงระบบเครือข่ายที่ผู้ใช้งานมีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลคอนเทนต์ส่วนตัวโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางสิ น่าสนใจใช่ไหม? แนวคิดนี้เองคือนิยามของ Web 3.0 ซึ่งไอเดียที่ว่าส่งผลต่อการตลาดในอนาคตอย่างไร และ Web 3.0 มีอะไรบ้าง? ไปทำความรู้จักกับ Web 3.0 ให้มากขึ้นกัน
Web 3.0 คืออะไร ทำไมถึงเป็นก้าวใหม่แห่งโลกอินเทอร์เน็ต
Web 3.0 หมายถึงอะไร? Web 3.0 คือการคาดการณ์ แนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบของเว็บไซต์ที่ควรจะเป็น โดยแนวคิด Web 3.0 อนาคตนี้เริ่มมาจากทิม เบอร์เนอร์ส-ลี ผู้ริเริ่ม World Wide Webขึ้นมา แนวคิดดังกล่าวมีหัวใจหลักคือการผลักดันอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ให้ทุกคนเชื่อมต่อระหว่างกันได้โดยไร้ศูนย์กลาง ผู้ใช้งานมีอำนาจในการควบคุมข้อมูลส่วนตัวบนโลกดิจิทัล รวมทั้งนำเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI เข้ามาช่วยในการทำงานของเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
ก่อนการมาถึงของ Web 3.0
- Web 1.0
ช่วง 1900-2000 ถือเป็นยุคแรกเริ่มที่ผู้คนเริ่มใช้งานอินเทอร์เน็ต สร้างเว็บไซต์เพื่ออัปโหลดและดาวน์โหลดข้อมูลต่าง ๆ เป็นการให้ข้อมูลหรือสื่อสารทางเดียว (One Way Communication) มากกว่าการโต้ตอบสื่อสารระหว่างผู้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น Google, Yahoo และเว็บไซต์ประกาศข่าวสาร
- Web 2.0
อินเทอร์เน็ตถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ 2004 จนถึงปัจจุบัน ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสารกัน (Two Way Communication) ได้อย่างอิสระผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เรียกกันว่าโซเชียล มีเดีย อย่างเช่น Twitter, Instagram หรือ Youtube ซึ่งการเติบโตของผู้ใช้งานและข้อมูลที่มากขึ้นทำให้องค์กรหรือบริษัทมากมายเลือกเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานบนหน้าเว็บไซต์นำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นโดยไม่ได้ขออนุญาต โดยข้อด้อยตรงจุดนี้เองที่นำไปสู่แนวคิดของ Web 3.0
แนวคิด และวัตถุประสงค์ในการพัฒนา Web 3.0
1. เชื่อมต่อแบบไร้ตัวกลาง (Decentralize)
Decentralize Web 3.0 รูปแบบของอินเทอร์เน็ตที่กระจายอำนาจ อิสรภาพในการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยแท้จริง ตัวผู้ใช้งานสามารถติดต่อสื่อสาร เข้าถึงข้อมูลบนโลกดิจิทัลได้เลยโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายและไม่ต้องผ่านตัวกลางใด ๆ มาควบคุม
2. เทคโนโลยีความปลอดภัย (Blockchain)
Blockchain Web 3.0 กลยุทธ์สำคัญในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เครือข่ายที่ผู้ใช้งานสามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลบนโลกดิจิทัลได้อย่างแท้จริง ลดการทำธุรกรรมซื้อขายบนแพลตฟอร์มชำระเงินผ่านตัวกลางอย่างธนาคารโดยการใช้สกุลเงินดิจิทัล
3. ประมวลผลอย่างชาญฉลาด (Semantic Web )
Sementic Web ยกระดับความสามารถในการวิเคราะห์ ตีความหมาย แบ่งปัน และประมวลผลข้อมูลบนแพลตฟอร์มไปอีกขั้น เทคโนโลยีอัจฉริยะเปรียบเสมือนทำงานโดยมนุษย์ ให้ประสบการณ์ท่องโลกอินเทอร์เน็ตอย่างยอดเยี่ยมแก่ผู้ใช้งาน
4. ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI)
Web 3.0 AI เทคโนโลยี AI ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ช่วยให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพในการคัดกรองข้อมูลจากผู้ใช้งานจริง ถอดอารมณ์จากความหมายของชุดข้อมูลที่ถูกป้อนเพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้อย่างเที่ยงตรงและชาญฉลาด
5. กลไกทำงานโปร่งใส (Consensus)
Web 3.0 มีความถูกต้องเห็นพ้องต้องกันระหว่างผู้ใช้งาน โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้เองเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นต่อตัวผู้ใช้งาน ยากต่อการปลอมแปลง ขโมย หรือนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ถือสิทธิ์
ประโยชน์ของ Web 3.0 สำคัญอย่างไรต่อผู้ใช้งาน
ถึงแม้ว่า Web 3.0 ในตอนนี้จะยังเป็นเพียงแนวคิดแต่ข้อดี Web 3.0 ที่ผู้ใช้งานจะได้รับถือว่ามีความน่าสนใจ อย่างที่กล่าวไว้ว่าเทคโนโลยี Web 3.0 ถูกพัฒนาขึ้นบนระบบรากฐานแบบบล็อกเชน ทำให้ผู้ใช้งานมีสิทธิ์ในข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเต็มร้อย จำกัดการเข้าถึงและยกระดับความปลอดภัยส่วนตัวได้มากขึ้น ข้อมูลบนระบบไม่ถูกนำไปแสวงหากำไรทางการตลาดเพราะปลอดตัวกลางคอยควบคุม
ตัว Web 3.0 ตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้ดี มีความยืดหยุ่นและกระจายความเสี่ยงจากอินเทอร์เน็ตล่มแบบเก่าเพราะปรับเปลี่ยนมาอยู่บนเครือข่าย Web 3.0 นอกจากนี้แล้วการทำธุรกรรมบน Web 3.0 ยังโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งยังเปิดกว้างและเพิ่มโอกาสในการขยายช่องทางการขายเพราะผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้หลายแพลตฟอร์มในเวลาเดียวกัน
ข้อจำกัด และความท้าทายของการพัฒนา Web 3.0
ข้อจำกัด Web 3.0 ไม่ว่าจะในด้านการใช้งานที่ผู้ใช้เข้าถึงเทคโนโลยีได้ยาก ตัว Web 3.0 ยังมีประสิทธิภาพในด้านการขยาย (Scalability) ที่ยังน้อยส่งผลให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ นั้นค่อนข้างล่าช้ากว่าแพลตฟอร์มแบบเดิม อีกทั้งเทคโนโลยีที่ทำงานร่วมกันกับ Web 3.0 ยังมีอยู่อย่างจำกัด เลยไม่ได้แพร่หลายเท่าที่ควร
โดยจุดนี้เองถือเป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่งของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ว่าจะมีแนวทางสำหรับ Web 3.0 การพัฒนาตัวเว็บไซต์อย่างไรให้น่าเชื่อถือ ดึงดูดผู้ใช้งานให้สนใจใช้ Web 3.0 ได้มากกว่าบริการจากแพลตฟอร์ม Web 2.0
สรุปภาพรวม Web 3.0
ถึง Web 3.0 จะยังเป็นแนวคิดและพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ในภาพรวมแต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้ใช้เทคโนโลยีด้านนี้ อย่างที่ทราบกันดีว่าเทคโนโลยีนั้นมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตรวดเร็วอยู่เสมอ ซึ่งหากใครที่ต้องการปรับรูปแบบธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตของ Web 3.0 แต่ยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นตรงไหน บริการรับทำเว็บไซต์ Markety ตอบโจทย์ของคุณได้
นอกจากออกแบบเว็บไซต์แล้วยังมีบริการเพิ่มยอดขายอื่น ๆ อย่างรับทำ Landing Page, รับทำ Sale Page และอีกมากมายผ่านระบบที่เสถียร เชื่อมต่อสะดวกกับแพลตฟอร์มอื่นรวมทั้งรองรับการใช้งานได้หลายช่องทาง ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้จาก
ที่ตั้ง: 976/4 ถนนริมคลองสามเสน แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
เบอร์ติดต่อ: 084-509-5545, 061-924-7449 อีเมล: [email protected]
คำถามที่พบบ่อยเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคของ Web 3.0
1. เทคโนโลยีที่จะนำไปสู่ยุคของ Web 3.0
- DeFi
คือเทคโนโลยีที่นำไปสู่ยุคของ Web 3.0 ด้วยการเป็นพื้นฐานของระบบด้านการเงินแบบบล็อกเชน ซึ่งมีหลักการทำงานแบบกระจายศูนย์ในยุคของ Web 3.0
- Crypto
ด้วยกระบวนการของระบบหน่วยเงินที่ต้องผ่านการเข้ารหัสเพื่อดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ สำหรับโอนย้ายเปลี่ยนแปลงผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งเหรียญคริปโตฯ นี้เองจะกลายเป็นรากฐานของสกุลเงินดิจิทัลในยุค Web 3.0
- NFT
เป็นโทเคนประเภทหนึ่งในเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งต่างจากเหรียญคริปโตฯตรงที่ NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเจ้าของเฉพาะตัว ไม่สามารถทำซ้ำได้ เป็นแนวทางในการสร้างมูลค่าสำหรับเทคโนโลยียุค Web 3.0
- DApps
dAPPs เป็นแอปพลิเคชันแบบ Open Source ที่ถูกพัฒนาขึ้นแบบไร้ตัวกลางทำให้นักพัฒนาเว็บไซต์ 3.0 สามารถเข้ามาปรับแต่งตัวแอปพลิเคชันได้ โดยทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชนจะถูกบันทึกไว้ทุกครั้ง
- Smart Contract
คือโปรแกรมเข้ารหัสประเภทหนึ่งแบบ DApps ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อขับเคลื่อนระบบกลไกการทำงานของเทคโนโลยียุค Web 3.0 โดยจะเป็นศูนย์กลางภายใต้แนวคิดแบบ Trustless
- Brave Bravo
แอปพลิเคชันยอดนิยมที่มีจุดเด่นและจุดแข็งในเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยตัวเว็บจะบล็อกโฆษณาอัตโนมัติต่าง ๆ รวมถึงพวก Web Tracker ผ่านระบบบล็อกเชนโดยไม่ต้องติดตั้งปลั๊กอินเพิ่มเติม
- DTube
คือแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งที่เจ้าของคอนเทนต์สามารถรับรายได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางซึ่งเป็นจุดแข็งสำหรับเทคโนโลยียุค Web 3.0 และเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลที่ทำงานด้วยระบบบล็อกเชน
2. Web 3.0 จะส่งผลอย่างไรกับธุรกิจ และการตลาดในอนาคต
ผลต่อด้านธุรกิจและการตลาด Web 3.0 ในอนาคตคือ เทคโนโลยีของ Web 3.0 เป็นวิวัฒนาการที่ตัวผู้ใช้งานเข้าถึงคอนเทนต์บริษัทต่าง ๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ ซึ่งตัวธุรกิจเองนั้นเปิดกว้างและง่ายต่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้แล้วเทคโนโลยีธุรกรรมของ Web 3.0 ยังโปร่งใส ตรวจสอบได้ ยกระดับการประมวลผลจากชุดข้อมูลที่มีนำมาปรับใช้แก้ไขปัญหารวมถึงตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ไม่ต้องผ่านตัวกลาง
อ้างอิง
David Essex. (2023, Septermber 09). What is Web 3.0 (Web3)? Definition, guide and history. Techtarget.
https://www.techtarget.com/whatis/definition/Web-30
The Investopedia team. (2023, October 18). Web 3.0 Explained, Plus the History of Web 1.0 and 2.0. Investopedia.
https://www.investopedia.com/web-20-web-30-5208698
Carley Burdova. (2022, December 08). What is Web 3.0 (Web3 definition)?. Avast.