Markety

ศูนย์การเรียนรู้

บริษัท มาเก็ตตี้ (ประเทศไทย) จำกัด

Web 3.0 แนวคิดอินเทอร์เน็ตไร้สื่อกลางรูปแบบใหม่ สำคัญอย่างไรกับธุรกิจ

web 3.0

เชื่อว่าใครหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Metaverse กันมาบ้างพอสมควร แต่ Web 3.0 คืออะไรและ Web 3.0 สำคัญแค่ไหนอาจจะยังมีใครหลายคนที่ยังไม่เข้าใจถึงที่มา ลองนึกถึงระบบเครือข่ายที่ผู้ใช้งานมีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลคอนเทนต์ส่วนตัวโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางสิ น่าสนใจใช่ไหม? แนวคิดนี้เองคือนิยามของ Web 3.0 ซึ่งไอเดียที่ว่าส่งผลต่อการตลาดในอนาคตอย่างไร และ Web 3.0 มีอะไรบ้าง? ไปทำความรู้จักกับ Web 3.0 ให้มากขึ้นกัน

สารบัญบทความ

Web 3.0 คืออะไร ทำไมถึงเป็นก้าวใหม่แห่งโลกอินเทอร์เน็ต

Web 3.0 หมายถึงอะไร? Web 3.0 คือการคาดการณ์ แนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบของเว็บไซต์ที่ควรจะเป็น โดยแนวคิด Web 3.0 อนาคตนี้เริ่มมาจากทิม เบอร์เนอร์ส-ลี ผู้ริเริ่ม World Wide Webขึ้นมา แนวคิดดังกล่าวมีหัวใจหลักคือการผลักดันอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ให้ทุกคนเชื่อมต่อระหว่างกันได้โดยไร้ศูนย์กลาง ผู้ใช้งานมีอำนาจในการควบคุมข้อมูลส่วนตัวบนโลกดิจิทัล รวมทั้งนำเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI เข้ามาช่วยในการทำงานของเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

ก่อนการมาถึงของ Web 3.0

  • Web 1.0

ช่วง 1900-2000 ถือเป็นยุคแรกเริ่มที่ผู้คนเริ่มใช้งานอินเทอร์เน็ต สร้างเว็บไซต์เพื่ออัปโหลดและดาวน์โหลดข้อมูลต่าง ๆ เป็นการให้ข้อมูลหรือสื่อสารทางเดียว (One Way Communication) มากกว่าการโต้ตอบสื่อสารระหว่างผู้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น Google, Yahoo และเว็บไซต์ประกาศข่าวสาร

  • Web 2.0

อินเทอร์เน็ตถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ 2004 จนถึงปัจจุบัน ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสารกัน (Two Way Communication) ได้อย่างอิสระผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เรียกกันว่าโซเชียล มีเดีย อย่างเช่น Twitter, Instagram หรือ Youtube ซึ่งการเติบโตของผู้ใช้งานและข้อมูลที่มากขึ้นทำให้องค์กรหรือบริษัทมากมายเลือกเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานบนหน้าเว็บไซต์นำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นโดยไม่ได้ขออนุญาต โดยข้อด้อยตรงจุดนี้เองที่นำไปสู่แนวคิดของ Web 3.0

แนวคิด และวัตถุประสงค์ในการพัฒนา Web 3.0

web 3.0 คืออะไร

1. เชื่อมต่อแบบไร้ตัวกลาง (Decentralize)

Decentralize Web 3.0 รูปแบบของอินเทอร์เน็ตที่กระจายอำนาจ อิสรภาพในการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยแท้จริง ตัวผู้ใช้งานสามารถติดต่อสื่อสาร เข้าถึงข้อมูลบนโลกดิจิทัลได้เลยโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายและไม่ต้องผ่านตัวกลางใด ๆ มาควบคุม

2. เทคโนโลยีความปลอดภัย (Blockchain)

Blockchain Web 3.0 กลยุทธ์สำคัญในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เครือข่ายที่ผู้ใช้งานสามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลบนโลกดิจิทัลได้อย่างแท้จริง ลดการทำธุรกรรมซื้อขายบนแพลตฟอร์มชำระเงินผ่านตัวกลางอย่างธนาคารโดยการใช้สกุลเงินดิจิทัล

3. ประมวลผลอย่างชาญฉลาด (Semantic Web )

Sementic Web ยกระดับความสามารถในการวิเคราะห์ ตีความหมาย แบ่งปัน และประมวลผลข้อมูลบนแพลตฟอร์มไปอีกขั้น เทคโนโลยีอัจฉริยะเปรียบเสมือนทำงานโดยมนุษย์ ให้ประสบการณ์ท่องโลกอินเทอร์เน็ตอย่างยอดเยี่ยมแก่ผู้ใช้งาน

4. ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI)

Web 3.0 AI เทคโนโลยี AI ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ช่วยให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพในการคัดกรองข้อมูลจากผู้ใช้งานจริง ถอดอารมณ์จากความหมายของชุดข้อมูลที่ถูกป้อนเพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้อย่างเที่ยงตรงและชาญฉลาด 

5. กลไกทำงานโปร่งใส (Consensus)

Web 3.0 มีความถูกต้องเห็นพ้องต้องกันระหว่างผู้ใช้งาน โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้เองเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นต่อตัวผู้ใช้งาน ยากต่อการปลอมแปลง ขโมย หรือนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ถือสิทธิ์

ประโยชน์ของ Web 3.0 สำคัญอย่างไรต่อผู้ใช้งาน

ประโยชน์ web 3.0

ถึงแม้ว่า Web 3.0 ในตอนนี้จะยังเป็นเพียงแนวคิดแต่ข้อดี Web 3.0 ที่ผู้ใช้งานจะได้รับถือว่ามีความน่าสนใจ อย่างที่กล่าวไว้ว่าเทคโนโลยี Web 3.0 ถูกพัฒนาขึ้นบนระบบรากฐานแบบบล็อกเชน ทำให้ผู้ใช้งานมีสิทธิ์ในข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเต็มร้อย จำกัดการเข้าถึงและยกระดับความปลอดภัยส่วนตัวได้มากขึ้น ข้อมูลบนระบบไม่ถูกนำไปแสวงหากำไรทางการตลาดเพราะปลอดตัวกลางคอยควบคุม

ตัว Web 3.0 ตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้ดี มีความยืดหยุ่นและกระจายความเสี่ยงจากอินเทอร์เน็ตล่มแบบเก่าเพราะปรับเปลี่ยนมาอยู่บนเครือข่าย Web 3.0 นอกจากนี้แล้วการทำธุรกรรมบน Web 3.0 ยังโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งยังเปิดกว้างและเพิ่มโอกาสในการขยายช่องทางการขายเพราะผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้หลายแพลตฟอร์มในเวลาเดียวกัน

ข้อจำกัด และความท้าทายของการพัฒนา Web 3.0

ข้อจำกัด Web 3.0 ไม่ว่าจะในด้านการใช้งานที่ผู้ใช้เข้าถึงเทคโนโลยีได้ยาก ตัว Web 3.0 ยังมีประสิทธิภาพในด้านการขยาย (Scalability) ที่ยังน้อยส่งผลให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ นั้นค่อนข้างล่าช้ากว่าแพลตฟอร์มแบบเดิม อีกทั้งเทคโนโลยีที่ทำงานร่วมกันกับ Web 3.0 ยังมีอยู่อย่างจำกัด เลยไม่ได้แพร่หลายเท่าที่ควร

โดยจุดนี้เองถือเป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่งของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ว่าจะมีแนวทางสำหรับ Web 3.0 การพัฒนาตัวเว็บไซต์อย่างไรให้น่าเชื่อถือ ดึงดูดผู้ใช้งานให้สนใจใช้ Web 3.0 ได้มากกว่าบริการจากแพลตฟอร์ม Web 2.0

สรุปภาพรวม Web 3.0

ถึง Web 3.0 จะยังเป็นแนวคิดและพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ในภาพรวมแต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้ใช้เทคโนโลยีด้านนี้ อย่างที่ทราบกันดีว่าเทคโนโลยีนั้นมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตรวดเร็วอยู่เสมอ ซึ่งหากใครที่ต้องการปรับรูปแบบธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตของ Web 3.0 แต่ยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นตรงไหน บริการรับทำเว็บไซต์ Markety ตอบโจทย์ของคุณได้

นอกจากออกแบบเว็บไซต์แล้วยังมีบริการเพิ่มยอดขายอื่น ๆ อย่างรับทำ Landing Pageรับทำ Sale Page และอีกมากมายผ่านระบบที่เสถียร เชื่อมต่อสะดวกกับแพลตฟอร์มอื่นรวมทั้งรองรับการใช้งานได้หลายช่องทาง ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้จาก

ที่ตั้ง: 976/4 ถนนริมคลองสามเสน แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

เบอร์ติดต่อ: 084-509-5545, 061-924-7449 อีเมล: [email protected]

คำถามที่พบบ่อยเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคของ Web 3.0

1. เทคโนโลยีที่จะนำไปสู่ยุคของ Web 3.0

  • DeFi

คือเทคโนโลยีที่นำไปสู่ยุคของ Web 3.0 ด้วยการเป็นพื้นฐานของระบบด้านการเงินแบบบล็อกเชน ซึ่งมีหลักการทำงานแบบกระจายศูนย์ในยุคของ Web 3.0 

  • Crypto

ด้วยกระบวนการของระบบหน่วยเงินที่ต้องผ่านการเข้ารหัสเพื่อดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ สำหรับโอนย้ายเปลี่ยนแปลงผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งเหรียญคริปโตฯ นี้เองจะกลายเป็นรากฐานของสกุลเงินดิจิทัลในยุค Web 3.0

  • NFT

เป็นโทเคนประเภทหนึ่งในเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งต่างจากเหรียญคริปโตฯตรงที่ NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเจ้าของเฉพาะตัว ไม่สามารถทำซ้ำได้ เป็นแนวทางในการสร้างมูลค่าสำหรับเทคโนโลยียุค Web 3.0

  • DApps

dAPPs เป็นแอปพลิเคชันแบบ Open Source ที่ถูกพัฒนาขึ้นแบบไร้ตัวกลางทำให้นักพัฒนาเว็บไซต์ 3.0 สามารถเข้ามาปรับแต่งตัวแอปพลิเคชันได้ โดยทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชนจะถูกบันทึกไว้ทุกครั้ง

  • Smart Contract

คือโปรแกรมเข้ารหัสประเภทหนึ่งแบบ DApps ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อขับเคลื่อนระบบกลไกการทำงานของเทคโนโลยียุค Web 3.0 โดยจะเป็นศูนย์กลางภายใต้แนวคิดแบบ Trustless

  • Brave Bravo

แอปพลิเคชันยอดนิยมที่มีจุดเด่นและจุดแข็งในเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยตัวเว็บจะบล็อกโฆษณาอัตโนมัติต่าง ๆ รวมถึงพวก Web Tracker ผ่านระบบบล็อกเชนโดยไม่ต้องติดตั้งปลั๊กอินเพิ่มเติม

  • DTube

คือแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งที่เจ้าของคอนเทนต์สามารถรับรายได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางซึ่งเป็นจุดแข็งสำหรับเทคโนโลยียุค Web 3.0 และเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลที่ทำงานด้วยระบบบล็อกเชน

2. Web 3.0 จะส่งผลอย่างไรกับธุรกิจ และการตลาดในอนาคต

ผลต่อด้านธุรกิจและการตลาด Web 3.0 ในอนาคตคือ เทคโนโลยีของ Web 3.0 เป็นวิวัฒนาการที่ตัวผู้ใช้งานเข้าถึงคอนเทนต์บริษัทต่าง ๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ ซึ่งตัวธุรกิจเองนั้นเปิดกว้างและง่ายต่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้แล้วเทคโนโลยีธุรกรรมของ Web 3.0 ยังโปร่งใส ตรวจสอบได้ ยกระดับการประมวลผลจากชุดข้อมูลที่มีนำมาปรับใช้แก้ไขปัญหารวมถึงตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ไม่ต้องผ่านตัวกลาง

อ้างอิง 

David Essex. (2023, Septermber 09). What is Web 3.0 (Web3)? Definition, guide and history. Techtarget.

https://www.techtarget.com/whatis/definition/Web-30

The Investopedia team. (2023, October 18). Web 3.0 Explained, Plus the History of Web 1.0 and 2.0. Investopedia.

https://www.investopedia.com/web-20-web-30-5208698

Carley Burdova. (2022, December 08). What is Web 3.0 (Web3 definition)?. Avast.

https://www.avast.com/c-web-3-0

เลือกหัวข้อที่คุณสนใจ

News Update