หากต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อโดเมนใหม่เพราะชื่อเก่าไม่ถูกใจ หรือต้องการเปลี่ยนจากภาษาไทยมาเป็นภาษาอังกฤษ หากทำผิดวิธีอาจทำให้เว็บไซต์เสียหายหรือขึ้น Error 404 Page Not Foundได้ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลต่อการทำ SEO ทำให้เว็บไซต์ของคุณตกอันดับ ซึ่งวิธีการแนะนำที่อยากให้ทุกคนทำสำหรับเปลี่ยน URL เว็บไซต์นั้นก็คือ การ Redirect
Redirect คือการทำให้ Google รู้ว่า URL ที่คุณได้ทำการเปลี่ยนใหม่นั้นมีตัวตนมาก่อน รวมไปถึงยังเป็นการเปลี่ยนเส้นทางของเว็บไซต์ให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือลูกค้าเก่ายังคงอยู่ และสามารถนำทางลูกค้ามายังเว็บไซต์หน้าใหม่ของคุณได้อย่างถูกต้อง
URL Redirect คืออะไร
Redirect คือ การเปลี่ยนเส้นทางจาก URL เก่าไปยัง URL ใหม่ที่คุณต้องการ โดยการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเหล่านี้หากทำผิดวิธีอาจทำให้เกิด URL เสียหาย หรือ 404 Page Not Found ได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณไม่มีตัวตน ไม่มีคุณภาพ และจะส่งผลต่อการติดอันดับการค้นหาบน Google จากที่เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้น ๆ กลับกลายว่าอันดับตกลงมาต่ำสุดก็เป็นได้ ซึ่งจุดประสงค์ของ Redirect จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ และช่วยแก้ไขปัญหาลิงก์เสียได้
ประเภทของ Redirect มีอะไรบ้าง ทำหน้าที่อย่างไร
หลังจากที่ได้ทราบกันไปแล้วว่า Redirect คืออะไร มีสิ่งที่คุณควรรู้เพื่อไม่ให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณต้องเจอกับปัญหา เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนชื่อโดเมน หรือย้าย URL ซึ่งการทำ Redirect มีหลายประเภทด้วยกัน ในแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
การ Redirect ถาวร 301 และ 308
301 Redirect คือ การเปลี่ยนเส้นทางของ URL เก่า ไปยัง URL ใหม่อย่างถูกต้องแบบถาวร โดยการทำ Redirect 301 และ 308 จะช่วยนำพาลูกค้าเก่าไปยังเว็บไซต์ใหม่ของคุณได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงการทำ Redirect ในรูปแบบ 301 และ 308 ยังช่วยย้ายคะแนน Backlink Authority มายังเว็บไซต์ใหม่ได้อีกด้วย
การ Redirect ชั่วคราว 302, 303 และ 307
นอกจาก Redirect 301 และ 308 แล้ว ยังมี Redirect ประเภทอื่น อย่างการ Redirect ชั่วคราว 302, 303 และ 307 โดยแต่ละประเภทนั้นมีความหมาย ดังต่อไปนี้
- 302 Redirect คือ การเปลี่ยน URL แบบชั่วคราว โดยที่ยังมีการ Indexing URL เดิมอยู่ เป็นประเภท Redirect ที่คล้ายกับ 301 Redirect แต่จะแตกต่างกันตรงที่ 302 Redirect เป็นการย้าย URLแบบชั่วคราว โดยการทำ 302 Redirect มักเหมาะกับการทดสอบ A/B Test URL เพื่อการทดสอบการใช้งานของ User
- 303 Redirect คือ การเปลี่ยน URL โดยที่เนื้อหาข้างในเว็บไซต์ยังคงเป็นเนื้อหาเดิมอยู่ ไม่ข้อมูลใดเสียหาย หรือถูกลบออกไป
- 307 Redirect คือการย้าย URL แบบชั่วคราว เพียงแต่การทำ 307 Redirect จะเป็นการย้ายเฉพาะ http เท่านั้น
เมื่อไหร่ที่ควร Redirect เว็บไซต์ เพื่อกันไม่ให้เว็บไซต์ของคุณตกอันดับ
การทำ Redirect คือการเปลี่ยนเส้นทางเมื่อคุณต้องการแก้ไข URLบนเว็บไซต์ของคุณ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา และสิ่งที่เจ้าของเว็บไซต์หรือนักธุรกิจออนไลน์จำเป็นต้องรู้ คือ เมื่อที่ไหร่เว็บไซต์จำเป็นต้องทำ Redirect โดยสามารถตัดสินใจได้จากปัจจัยต่อไปนี้
1.ต้องการเปลี่ยน Domain ใหม่ที่คุณต้องการ
ทำการ Redirect เมื่อคุณสร้างเว็บไซต์และมีการตั้งชื่อ Domain ไปแล้ว แต่ต้องการเปลี่ยนชื่อ Domain ใหม่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เช่น เปลี่ยนเพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับที่ดีขึ้น หรือต้องการเปลี่ยนเป็นชื่อที่ตัวเองชอบ
2.รวม Domain ต่าง ๆ
การทำ Redirect คือ คุณสามารถทำได้โดยเมื่อคุณต้องการรวม Domain ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อจัดการผู้ใช้และการบริการต่าง ๆ ได้จากคอนโซลของผู้ดูแลระบบ
3.ต้องการย้าย URL ไปยังหน้าเว็บไซต์ใหม่ทั้งหมด
การทำ Redirect ไปยังหน้า Domain ใหม่ที่ต้องการ ไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนชื่อจากหน้าโฮมเพจเท่านั้น แต่ต้องเปลี่ยนชื่อ URL บนเว็บไซต์ทั้งหมดไปยังชื่อโดเมนใหม่ด้วย
4.ต้องการแก้ไขหน้าเว็บ Error อย่าง 404 Page Not Found
การทำ Redirect คือ วิธีการที่สามารถแก้ปัญหาลิงก์เสียได้ โดยลดการเกิด Error 404 Page Not Found ที่เมื่อลูกค้าเก่าค้นหา URLเดิมของเว็บไซต์คุณแล้วไม่พบหน้าเว็บไซต์ เนื่องจากมีการลบหน้าเพจนั้นไปแล้ว ซึ่งการเกิด 404 Page Not Found จะส่งผลต่อการทำ SEO คือ เว็บไซต์ของคุณอาจตกอันดับ และลูกค้าเกิดประสบการณ์ที่ไม่ดีต่อการใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งนั้นก็อาจทำให้เกิดปัญหากับธุรกิจออนไลน์ของคุณได้
5.การปรับปรุง Protocol บนเว็บไซต์
การทำ Redirect คุณสามารถทำได้เมื่อต้องการเปลี่ยน Protocol จาก http ให้กลายเป็น https และจะทำให้ลิงก์ต่าง ๆ ที่เป็น http แบบเดิมไม่สามารถเข้าได้ เพื่อการใช้งานบนเว็บไซต์ที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การทำ Redirect ส่งผลต่อการตลาด SEO อย่างไร ทำไมจึงมีผลต่อการติดอันดับ Google
การทำ SEO คือการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ เพื่อให้อันดับของการค้นหาอยู่ในหน้าแรก หรือเป็นที่ 1 บนหน้า Google Search โดยมีหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำ SEO และนั่นก็คือชื่อโดเมน หรือ URL เว็บไซต์
ส่งผลให้การ Redirect คือสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำหลังการปรับ URL Friendlyเพื่อให้การย้าย URL ไม่ส่งผลเสียหายต่อเว็บไซต์ จากการเปลี่ยน URL โดยหลังจากมีปรับ URL Friendly ทางทีมเว็บไซต์ควรตรวจสอบหน้า Page ทุกครั้งว่ามีการทำ Redirect เรียบร้อยแล้วหรือ เพื่อป้องกันปัญหา 404 Not Found ที่อาจตามมา
ขั้นตอนการทำ Redirect มีอะไรบ้าง
Redirect คือการเปลี่ยนเส้นทางของ URL เก่า ไปยัง URL ใหม่ เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้เข้าชมเข้าไปยังเว็บไซต์ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งขั้นตอนในการทำ Redirect มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- หากคุณต้องการที่จะเปลี่ยนชื่อโดเมน สิ่งแรกที่ต้องทำคือ แจ้งผู้ดูแล Hosting ของเว็บไซต์ให้ทราบว่า คุณต้องการทำ Redirect และทำการเข้าสู่ระบบ Control Panel
- ผู้ดูแลจะทำการตั้งค่าระบบสำหรับทำการ Redirect ซึ่งการตั้งค่าจะทำโดยกำหนด URL เดิมที่ต้องการทำ Redirect จากนั้นทำการกำหนดประเภทของ Redirect ที่ต้องการทำ อย่างเช่น 301 Redirect 302 Redirect และประเภทอื่น ๆ ที่คุณต้องการ
- หลังจากที่ได้ทำการ Redirect ไปแล้ว หากลูกค้าได้มีการค้นหาเว็บไซต์เดิมระบบก็จะนำเส้นทางไปยังหน้าเว็บไซต์ใหม่ได้อย่างถูกต้อง เป็นอันเสร็จสิ้น นอกจากนี้ การทำ Redirect ยังสามารถทำได้ด้วยวิธีอื่น ๆ เช่นกัน อาทิ การทำผ่าน Plugin จาก WordPress หรือการทำผ่าน .htaccess เป็นต้น
ข้อควรระวังก่อนตัดสินใจทำ Redirect
Redirect คือการใช้เทคนิควิธีการย้ายเส้นทางเว็บไซต์ผ่านการเปลี่ยน URL หรือย้าย Domainซึ่งนอกจากประโยชน์ของการทำ Redirect แล้ว ยังมีข้อควรระวังก่อนการทำ Redirect ดังนี้
- ระวังการเกิด Redirect Chain และ Loop จากการย้ายหน้า ซึ่งอาจจะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณไม่มีคุณภาพ และลดคะแนนเว็บไซต์ของคุณลง ทำให้ส่งผล Search Engine คือ การจัดอันดับการค้นหาบน Google
- สำหรับหน้าเว็บไซต์หรือบล็อกที่มีการทำ Hyperlink ของหน้าที่มีการ Redirect เปลี่ยน URL เว็บไซต์ จำเป็นจะต้องแก้ URL สำหรับเชื่อมลิงก์ใหม่ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานกดไปเจอลิงก์เสีย
- เนื้อหาที่ทำการย้ายควรต้องมีเนื้อหาที่เหมือนหรือคล้ายกับเว็บไซต์เดิม หากเนื้อหาแตกต่างไปจากเดิม จะทำให้ Google มองว่า URL ใหม่นั้นไม่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดเดิม ทำให้ส่งผลต่อการจัดอันดับ SEO ได้
สรุป Redirect สำคัญอย่างไร
การทำ Redirect คือการเปลี่ยนเส้นทางจาก URL เก่าไปยัง URL ใหม่ที่คุณต้องการเปลี่ยน ซึ่งการเปลี่ยนหรือการย้าย URL ใหม่นั้น อาจส่งผลต่อเว็บไซต์ของคุณได้ อย่างเช่น เนื้อหาเกิดการสูญหาย หรือเกิด Error 404 Page Not Found ลิงก์เสีย อีกทั้งยังส่งผลต่อคะแนนในการจัดอันดับ SEO อีกด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการทำ Redirect หากคุณมีเว็บไซต์ หรือต้องการสร้างเว็บไซต์เพื่อทำการตลาดออนไลน์ การทำ Redirect สำคัญอย่างมากสำหรับเจ้าของเว็บไซต์ทุกคน
แต่หากคุณไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทำเว็บไซต์ ที่ Markety เรายินดีให้บริการ เราคือบริษัทที่รับทำเว็บไซต์เพื่อการสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ และสามารถสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นให้กับธุรกิจของคุณได้ นอกจากนี้ทาง Markety ยังรับทำ Landing Page รับทำ Sale Page อีกด้วย หากคุณสนใจสามารถติดต่อได้ที่ 573/104 รามคำแหง 39 แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310 ติดต่อสอบถาม เบอร์โทร 084-509-5545 ,061-924-7449 หรือ Email : [email protected]
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการ Redirect
คำถามที่คุณอาจพบได้บ่อยเกี่ยวกับการทำ Redirect มีดังต่อไปนี้
1. Redirect Loop คืออะไร
Redirect Loop คือการใช้เทคนิคในการย้ายเว็บไซต์ในลักษณะ หน้า ก ไป ข และมีการทำ Redirect อีกครั้งคือ จาก ข ไปหน้า ก ซึ่งการทำเว็บไซต์ในลักษณะนี้ จะทำให้ Google Bot สับสันระหว่างการจับข้อมูลและทำให้อันด
2. หาก Redirect แล้ว Googlebot ไม่เก็บ Index ต้องทำอย่างไร
เมื่อคุณทำการ Redirect เรียบร้อยแล้ว คุณต้องรอ Google มาเก็บ Index หาก Google ไม่มาเก็บ Index สิ่งที่คุณต้องทำคือ ตรวจสอบว่าการทำ Redirect ของคุณสำเร็จ และถูกต้องหรือไม่ โดยหน้าที่ที่ไม่ถูก Index จาก Google อาจมีลักษณะเช่น Keyword ซ้ำ URL ใกล้เคียงกับหน้าอื่นมากเกินไป หรือขาดลิงก์เชื่อมโยง หากคุณทำทุกอย่างสำเร็จและถูกต้องแล้ว ให้คุณทำการแจ้งการ Index หน้าใหม่กับ Google Search Console เพียงเท่านี้ Googlebot ก็จะมาเก็บ Index ในเวลาต่อมา
อ้างอิง
Kristen Hicks. (2023, November 28). 3 Ways To Redirect A Website URL.
https://www.hostgator.com/blog/ways-redirect-website-url/
MozCon. (2023, November 28). What is a redirect?.
https://moz.com/learn/seo/redirection
Vahan Petrosyan. (2023, November 28). URL Redirects For SEO: A Technical Guide.
https://www.searchenginejournal.com/technical-seo/redirects/#close
