Markety

ศูนย์การเรียนรู้

บริษัท มาเก็ตตี้ (ประเทศไทย) จำกัด

Google Ads คืออะไร มาทำความรู้จักความหมายพร้อมวิธีใช้งานที่ถูกต้อง

Google Ads คือ

Google Ads คือ เครื่องมือสำหรับการแข่งขันทางการตลาดบนโลกออนไลน์ ในโลก Digital Marketing เครื่องมือทางการตลาดเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้แคมเปญได้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยมี Google Ads หรือ Google Adword คือ หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยสร้างกำไรให้กับธุรกิจ สำหรับใครที่ขายของออนไลน์ หรือสนใจที่จะศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับ Digital Marketing ควรที่จะรู้ว่า Google Ads คืออะไร ใช้งานอย่าง และจะสามารถช่วยธุรกิจของคุณได้จริงไหม บทความนี้มีคำตอบแน่นอน

สารบัญบทความ

Google Ads คืออะไร ฉบับเข้าใจง่าย

Google Ads คือ การโฆษณาบน Platform ออนไลน์ที่ให้บริการอยู่ในเครือของ Google ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Search Engine, ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่าง Gmail, Blog หรือ Youtube รวมไปถึง แอปพลิเคชัน และพาร์ทเนอร์ที่ทำงานร่วมกับ Google ทั้งหมด โดยมีค่าใช้จ่ายที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าการประมูล (Bidding) ตามจำนวนครั้งที่โฆษณาได้เผยแพร่ออกไป โดยจุดเด่นของ Google Ads คือ การโฆษณาบนพื้นที่อย่าง Google Search Engine ที่ผู้คนให้ความเชื่อมั่นในการใช้งาน และมีการค้นหามากกว่า 13 ล้านคนต่อวัน การที่เว็บไซต์ของเราถูกแสดงบนหน้าแรกของ Google ในลำดับที่สูงว่า Organic Search ได้ ย่อมสร้างโอกาสที่จะช่วยสร้างเม็ดเงินอย่างมหาศาลได้นั่นเอง 


นอกจาก Google Ads จะสามารถ Lead คนมายังหน้า Website ของเราได้แล้ว Google Ads ยังสามารถโปรโมทสินค้าและบริการผ่านหน้า Search engine ได้ตามวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่ตั้งค่า (Setting) ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบอีกด้วย ทำให้ Google Ads กลายเป็นเป็นเครื่องมือทางการตลาดยอดนิยมสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจในโลกออนไลน์นั่นเอง

Google Ads มีจุดเด่นที่ดีกว่าการตลาดรูปแบบอื่นอย่างไร

Google Ads ข้อดี

หลังจากรู้ความหมายและจุดเด่นของ Google Ads คร่าว ๆ กันไปแล้ว ทุกคนคงสงสัยว่า Google Ads ใช้ทำอะไรได้บ้าง และมีจุดเด่น ข้อดีแบบไหนที่น่าสนใจ สำหรับใครที่ยังคงมีข้อสงสัย เรามาดูไปพร้อม ๆ กัน

ข้อดีของ Google Ads 

  • ใช้เวลาไม่นาน : Google Ads คือ เครื่องมือที่ใช้เวลานานการตั้งค่าไม่นาน แต่จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ต่างจากการทำ SEO ที่ต้องใช้เวลารอผลลัพธ์นานกว่า 6 เดือน
  • ตั้งค่าได้ตามความต้องการ : อย่างที่รู้กันว่า Google Ads คือเครื่องมือโฆษณา ทำให้ผู้ใช้งาน Google Ads สามารถวางกรอบเวลา, กลุ่มเป้าหมาย, งบประมาณ, รูปแบบการแสดงผล และ Keyword ที่ต้องการได้ตามความต้องการ 
  • เก็บข้อมูลได้อย่างละเอียดและเปลี่ยนแปลงแผนการโฆษณาได้ตลอดเวลา : Google Ads คือการตั้งค่าโฆษณาที่มีการแสดงผลลัพธ์โดยละเอียด ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่ามีคนเข้ามาที่หน้า Website ของเรามากที่สุดเวลาไหน เข้ามาแล้วกดออกมากเท่าไหร่ มีพฤติกรรมการเข้าชมอย่างไร มาจากพื้นที่ใดบ้าง และอื่น ๆ สิ่งนี้ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น และสามารถเปลี่ยนแปลงแผนการตลาดได้ตามความต้องการ
  • มีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย : Google Ads คือเครื่องโฆษณาที่สามารถตั้งค่าได้อย่างอิสระ ทำให้เราสามารถเลือกการแสดงผลบนหน้าโฆษณา Google Ads ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณาได้ เช่น หากมีคุณต้องการเพิ่มยอด Conversion คุณสามารถตั้งค่าให้โฆษณาของคุณเป็น Shopping card display ได้ 
  • ควบคุมงบประมาณได้ตามความต้องการ : ด้วยความที่ Google Ads คือเครื่องมือโฆษณาที่สามารถตั้งค่าได้อย่างอิสระ เราจึงสามารถกำหนดงบประมาณที่จะใช้ในการโฆษณาครั้งนั้น ๆ ได้ใน Ads setting เครื่องมือที่จะทำให้คุณกำหนดค่าใช้จ่ายสูงสุดต่อวันได้ตามความต้องการ

รูปแบบการใช้งานของตามวัตถุประสงค์ของ Google Ads

  • Create Campaign : Google Ads คือ เครื่องมือสำหรับการตั้งค่าโฆษณา ที่มีฟีเจอร์มากมายให้ผู้ใช้งานได้ตั้งค่าตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด การ Create Campaign จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการตั้งค่าโดยละเอียด 
  • Website Traffic : การใช้ Google Ads เพื่อเพิ่ม Traffic ให้กับ Website เป็นอีกหนึ่งวัตถุประสงค์ในการใช้งานยอดนิยม
  • Leads : ใช้งาน Google Ads เพื่อสร้างการรับรู้ที่จะนำไปสู่โอกาสทางการขาย ผ่านการ Interact กับ Ads display
  • Brand Awareness and Engagement : เพิ่มการรับรู้และการมองเห็น เพื่อสร้างการจดจำให้กับกลุ่มเป้าหมาย
  • Drive Conversion : เพิ่มยอด Conversion เพื่อโอกาสทางการขาย เป็นการทำให้กลุ่มเป้าหมายสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
  • Sales : ใช้งาน Google Ads เพื่อสร้างยอดขายผ่าน Online store หรือ Application ที่เชื่อมต่อไว้
  • App Promotion : เพิ่มยอดดาวน์โหลดผ่าน Ads display

บริการจาก Google Ads ที่นิยมใช้กันทั่วไป มีรูปแบบไหนบ้าง

Google Ads คือการโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ ที่สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลาย แล้วการแสดงผลแบบไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ มาดูกัน

1. Search (Google Search)

Google search คือบริการโฆษณาออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยการบริการแบบ Search จะเป็นการโฆษณาผ่านการโชว์ Website ของเราบนหน้าแรกของ Google ตาม Keyword ที่เรากำหนด เพราะพฤติกรรมผู้ใช้งาน Google Search โดยทั่วไปแล้ว มักจะเข้าชมหน้า Website ที่ติดหน้าแรกในลำดับต้น ๆ ที่มองเห็นเป็นส่วนใหญ่

ส่วนวิธีการตั้งค่าก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านการกำหนด Keyword ที่ต้องการ จากนั้นจึงนำหน้า Website ที่ต้องการให้แสดงผลบนหน้า Search engine ของ Keyword นั้น ๆ ไปใส่ในฟีเจอร์ของ Google Ads หลังจากการโฆษณาแบบ Seach Ads เริ่มทำงาน Website ของคุณก็จะไปอยู่บนหน้าแรกของ Google ในทันที แต่จะอยู่อันดับที่เท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับ Cost Per Click (CPC) ของ Keyword และราคาในการประมูลที่คุณเสนอเพื่อสร้าง Ads 

2. Display (Google Display Network)

Google Ads คือการทำโฆษณาออนไลน์ Google Display Network ที่จัดว่าเป็น Banner รูปแบบหนึ่ง โดย Display นั้น ๆ จะแสดงผลบนหน้า Website ที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของผู้ใช้งาน เช่น หากสินค้าของคุณเป็นสกินแคร์ Banner ก็จะแสดงผลบน Website ที่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมความงามอย่าง Blog ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเอง

การทำ Google Display Network สามารถเพิ่มยอด Sales, Website Traffic, Lead, และ Brand Awareness and Engagement ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างการรับรู้และการจดจำเป็นอย่างมาก

3. Video (YouTube)

Video Google Ads คือการทำ Google Ads ในรูปแบบ Video ที่จะแสดงผลบน YouTube ขณะที่ผู้ใช้งานกำลังรับชมวิดิโอ ซึ่งผู้เผยแพร่ Video บน YouTube (Youtuber) ก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นส่วนแบ่งเมื่อโฆษณาของเรา ไปปรากฏอยู่ใน Video ของพวกเขา การทำ Google Ads ประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างการรับรู้และการจดจำต่อแบรนด์

4. App

App Google Ads คือการทำโฆษณาในรูปแบบ CTA โดยโฆษณานั้น ๆ จะปรากฏอยู่บน Website, YouTube, Application และ Google Play Store เมื่อผู้ใช้งานทำการกดเข้าไปที่ปุ่ม CTA ระบบก็จะทำการเชื่อมต่อผู้ใช้งานไปที่หน้าดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแบบอัตโนมัติ การทำโฆษณารูปแบบนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มยอด Download ให้ Application เป็นอย่างมาก

5. Shopping

Shopping Google Ads คือการทำโฆษณาผ่าน Google Ads ในรูปแบบ Banner ที่มีรูปภาพพร้อมราคาสินค้า Banner นี้จะแสดงผลต่อเมื่อผู้ใช้งานทำการค้นหา Keyword ที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าที่เราทำการโฆษณา เมื่อผู้ใช้งานคลิก Banner ระบบก็จะนำผู้ใช้งานไปที่หน้าสินค้าแบบอัตโนมัติ บริการนี้จึงสามารถกระตุ้นความต้องการซื้อให้กับผู้ใช้งาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ

6. Remarketing

Remarketing Google Ads คือบริการ Google Ads ที่ผสมผสานบริการหลายรูปแบบเข้าด้วยกันทั้ง Google Search, Google Display Network และ Google Shopping โดยจะมีการแสดงผลโฆษณาซ้ำ ๆ หลังจากผู้ใช้งานทำการค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ และได้เข้ามามีส่วนร่วมกับเนื้อหาบนหน้า Website บริการนี้เป็นการโฆษณาที่สามารถกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3 รูปแบบหลัก วิธีการจ่ายเงิน Google Ads

Google Ads ค่าใช้จ่าย

หลายคนอาจสงสัยว่า Google Ads จ่ายเงินทางไหน มีการคิดค่าบริการอย่างไร และเงินที่เราเสียไปกับ Google Ads คุ้มไหม หัวข้อนี้มีคำตอบ

1.Cost-Per-Click (CPC)

CPC ย่อมาจาก Cost Per Click หมายถึงราคาที่ต้องจ่ายต่อ 1 คลิก ซึ่งค่าใช้จ่ายในจุดนี้ผู้ตั้งค่า Google Ads สามารถกำหนดได้ว่า ต้องการให้มีค่าใช้จ่ายต่อคลิกกี่บาท และค่าใช้จ่ายต่อหนึ่งวัน (Daily budget) ต้องไม่เกินเท่าไหร่ ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่คิดตามจริง หากยอด CPC ที่เกิดขึ้นมีไม่ถึงค่าใช้จ่ายสูงสุดต่อวัน ค่าใช้จ่ายในวันนั้นก็จะถูกคิดตามราคาจริง 

ตัวอย่างเช่น เรากำหนด CPC ไว้ที่ 1 บาท โดยที่มี Daily Budget 20 บาท หากวันนั้นมีการคลิกเกิดขึ้นแค่ 1 ครั้ง ค่าใช้จ่ายตามจริงของเราจะอยู่ที่ 1 บาทเท่านั้น ซึ่งวิธีการคิดราคาค่าบริการแบบนี้ จะเหมือนวิธีการคิดค่าบริการแบบ PPC (Pay Per Click)

2.Cost-per-mille (CPM)

CPM ย่อมาจาก Cost per 1,000 impression หรือ Cost per mille หมายถึงค่าใช้จ่ายต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง เป็นค่าบริการที่เราต้องชำระเมื่อโฆษณามีการแสดงผล 1,000 ครั้ง โดยที่กลุ่มเป้าหมายจะคลิกหรือไม่คลิกโฆษณาของเราก็ได้ ต่างจาก CPC ที่ต้องมีการคลิกเกิดขึ้นก่อนถึงจะมีการเรียกเก็บค่าบริการ

3.Cost-per-engagement (CPE)

CPE ย่อมาจาก Cost per engagement หมายถึงค่าใช้จ่ายเมื่อการมีส่วนร่วมเกิดขึ้น เป็นค่าใช้จ่ายต่อการมีส่วนร่วมหนึ่งครั้ง พูดง่าย ๆ คือ ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะถูกเก็บก็ต่อเมื่อมีการ Like, Comment หรือ Share ซึ่งเราสามารถกำหนดงบประมาณในส่วนนี้ได้

สรุปการใช้งาน Google Ads 

Google Ads คือ เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การทำการตลาดบนโลกออนไลน์มีประสิทธิภาพ เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยผู้ประกอบการได้ในหลาย ๆ ด้านทั้งในด้านการเพิ่มการรับรู้ ด้านการเพิ่มการมองเห็น ด้านการเพิ่มการมีส่วนร่วม และด้านยอดขาย สำหรับใครที่อยากมีหน้าเว็บไซต์สวย ๆ สำหรับยิงแอด แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากจุดไหน เราขอแนะนำบริการรับทำเว็บไซต์รับทำ Landing Page และ รับทำ Sale page จาก Markety ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบดีไซน์เว็บไซต์ พร้อมบริการให้คำปรึกษา


สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามและรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 084-509-5545, 061924-7449 หรือทางอีเมล [email protected]

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้งาน Google Ads

1. ค่าใช้จ่ายในการทำ Google Ads แพงจริงไหม

Google Ads คือเครื่องมือทำการตลาดออนไลน์ที่หลายคนอาจคิดว่าการทำ Google Ads ค่าใช้จ่ายสูง แต่ความจริงแล้วเราสามารถกำหนดงบประมาณในการทำ Google Ads ได้ตามความต้องการตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักล้าน 

Google Ads มีการคิดค่าบริการแบบ CPC ทำให้ค่าใช้จ่ายเป็นไปตามยอดคลิกที่เกิดขึ้นจริง และเรายังสามารถปรับเปลี่ยนงบประมาณได้ตลอดเวลาอีกด้วย

2. เครื่องมือที่ควรรู้ก่อนสำหรับการใช้งาน Google Ads ในเบื้องต้น

เครื่องมือที่ควรรู้ก่อนเริ่มใช้งาน Google Ads คืออะไรบ้างมาดูกัน

  • Google Ads Manager คือ เครื่องมือจัดการโฆษณาที่จะทำให้การตั้งค่า Google Ads ของคุณง่ายขึ้น
  • Google Tag Manager คือ เครื่องมือสำหรับเพิ่ม Code เพื่อติดตามพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณรับรู้กิจกรรมที่เกิดขึ้นบนหน้าเว็บไซต์ผ่านเครื่องมือสรุปผลลัพธ์ Looker
  • Google Analytics คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลของกลุ่มเป้าหมาย เป็นเครื่องมือที่จะทำให้คุณสามารถวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น

3. Google Ads VS SEO การตลาดแบบไหนให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากัน

การทำการตลาดทั้ง 2 รูปแบบนั้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบธุรกิจและจุดประสงค์ในการใช้งานของคุณ โดย Google Ads คือเครื่องมือสำหรับการทำโฆษณาบน Online platform มีข้อดีในเรื่องของความสะดวกรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน และวัดผลได้ทันที เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการสร้างยอดขายหรือการมีส่วนร่วมแบบเร่งด่วน ส่วน SEO จะเป็นการสร้าง Traffic แบบ Organic จะมีข้อเสียในเรื่องของเวลา และการวัดผลที่ไม่ชัดเจนเท่าการทำ SEM แต่ก็มีข้อดีในเรื่องของความเป็นธรรมชาติและความยั่งยืน ดังนั้นจึงไม่สามารถตัดสินได้ว่าแบบไหนดีกว่ากัน

อ้างอิง 

WordStream. (2023). Google Ads: What Are Google Ads & How Do They Work?. https://www.wordstream.com/google-ads 

Christina Perricone. (2023). The Ultimate Guide to Google Ads [Examples]. https://blog.hubspot.com/marketing/google-adwords-ppc 

Michelle Martin. (2023). https://blog.hootsuite.com/google-ads/

เลือกหัวข้อที่คุณสนใจ

News Update